5 SIMPLE TECHNIQUES FOR อาหารเสริมและวิตามิน

5 Simple Techniques For อาหารเสริมและวิตามิน

5 Simple Techniques For อาหารเสริมและวิตามิน

Blog Article

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

กินวิตามินหรืออาหารเสริมอาจทำให้โรคประจำตัวกำเริบ

“วิตามิน” กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์

ผู้เขียน : ศ. พญ.ศศิโสภิณ เกียรติบูรณกุล สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

ขึ้นไป กรดแอสคอร์บิกอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะและทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้ในคนปกติ

วิตามินและอาหารเสริมแต่ละชนิด จะมีวิธีการกินแตกต่างกัน บางชนิดทานครั้งเดียวตอนเช้า บางชนิดทานครั้งเดียวก่อนนอน หรือบางชนิดกินสามครั้งหลังอาหาร นอกจากนั้นยังมีข้อควรระวังและคำแนะนำอื่นๆ ดังนั้น หากต้องการกินอาหารเสริม หรือวิตามินให้เห็นผล ควรอ่านฉลากบรรจุภัณฑ์ให้ละเอียด และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ

>> เนื่องจากแบคทีเรียในร่างกายสามารถสร้างไบโอตินได้ จึงทำให้พบผู้ที่ขาดไบโอตินน้อย แต่อาจจะพบได้ในกลุ่มคนที่รับประทานยาฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง และรับประทานไข่ขาวดิบเป็นประจำ เนื่องจากไข่ขาวดิบจะลดการดูดซึมไบโอติน

     อย่างไรก็ตาม หากรับประทานผักผลไม้สีเหลืองในปริมาณมาก ๆ ร่วมกับการรับประทานวิตามิน A ในรูปแบบอาหารเสริม อาจทำให้มีโอกาสเกิดตัวเหลือง ตาเหลือง ควรหยุดรับประทานและปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัย

เข้าถึงข้อมูลสุขภาพและรู้ข่าวโปรโมชันใหม่ก่อนใคร

ปัจจุบันมีการนำมาวิตามินซีมาใช้ในทางคลินิกอย่างแพร่หลาย ทั้งการป้องกันและการรักษาโรคต่าง ๆ ในบทความนี้จะมากล่าวถึงประโยชน์ของวิตามินซีทางการแพทย์กันอย่างละเอียดตามงานวิจัย รวมถึงผลเสียและข้อควรระวังของการใช้วิตามินซี

สังกะสีจะช่วยผลิตฮอร์โมนเพศชายให้เพิ่มสูงขึ้น ก็จะส่งผลต่อการพัฒนาการเนื้อมัดต่างๆ ในร่างกายให้แข็งแรงและใหญ่โตมากขึ้น แต่การออกกำลังกายโดยเผาผลาญไขมันออกไปก็จะมีบางส่วนของสังกะสีออกไปด้วยทำให้ร่างกายมีสังกะสีน้อยลง จึงจำเป็นต้องทานซิงค์เข้าไปด้วยนั้นเอง

ข้อควรรู้ในการเข้ารับบริการ ห้องพักผู้ป่วย อาหารเสริมและวิตามิน สิ่งอำนวยความสะดวก บริษัทคู่สัญญา ข้อมูลการเข้ารับบริการผู้ป่วยใน กิจกรรมเพื่อสังคม

ห้องพักผู้ป่วย บริษัทคู่สัญญา ข้อมูลการเข้ารับบริการผู้ป่วยใน สิ่งอำนวยความสะดวก คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับเรา

ได้แก่ วิตามินเอ ดี อี และเค วิตามินประเภทนี้จะละลายได้ดีในไขมัน หรือน้ำมันเท่านั้น เมื่อร่างกายดูดซึมไปใช้ส่วนที่เหลือจากการใช้งานจะถูกกักเก็บไว้ตามกล้ามเนื้อ หรือไขมันในร่างกาย ไม่สามารถขับออกมาทางปัสสาวะได้

Report this page